ttb 56-1 One Report 2021 (TH)

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้วยแนวทางดังกล่าว ในปี 2564 ธนาคารจึงเติบโตสินเชื่อใหม่อย่างระมัดระวัง และเน้นการเติบโตสินเชื่อกลุ่มที่มีหลักประกัน ซึ่งถือว่ามี ความเสี่ยงต� ำ ได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งธนาคารมีความเชี่ยวชาญและถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้น� ำตลาด ขณะเดียวกัน ก็ด� ำเนินการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการแก้ปัญหาเชิงรุกและลดยอดสินเชื่อกลุ่มที่มีคุณภาพอ่อนแอ อย่างไรก็ดี ด้วยนโยบายดังกล่าว สินเชื่อของธนาคาร ณ สิ้นปี 2564 จึงอยู่ที่ 1,372 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ในเชิงคุณภาพนั้นถือได้ว่าดีขึ้น ทั้งในแง่ของการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีหลักประกัน และในเชิง คุณภาพตามการจัดชั้นสินเชื่อ ซึ่งบ่งบอกได้จากผลรวมของสินเชื่อชั้นที่ 2 หรือสินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสินเชื่อชั้น 3 หรือสินเชื่อ ด้อยคุณภาพที่ลดลงกว่า 7 พันล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.4 จากสิ้นปีที่แล้ว ด้านเงินฝากอยู่ที่ 1,339 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.5 จาก ปี 2563 เป็นไปตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างเงินฝากหลังการรวมกิจการ นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการบริหารเงินฝากให้สอดคล้องกับ ทิศทางสินเชื่อที่ชะลอตัว ในด้านรายได้นั้น ธนาคารรับรู้ผลประโยชน์จากการรวมกิจการด้านงบดุลจากการปรับโครงสร้างเงินฝากและสินเชื่อหลังการรวมกิจการได้ ตามแผน แต่ด้วยแรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีมากกว่า จึงส่งผลให้รายได้จากการด� ำเนินงานรวมอยู่ที่ 65,537 ล้านบาท ชะลอลง ร้อยละ 5.5 จากปีก่อนหน้า ภายใต้สถานการณ์ที่มีแรงกดดันด้านรายได้เช่นนี้ การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องที่ส� ำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งธนาคารสามารถรักษาวินัย ด้านค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังรับรู้ผลประโยชน์จากการรวมกิจการด้านต้นทุนจากการลดค่าใช้จ่ายที่ทับซ้อนกันระหว่าง 2 ธนาคารและ การเพิ่มประสิทธิภาพการด� ำเนินงาน จึงท� ำให้ค่าใช้จ่ายไม่เร่งตัวแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นจากภารกิจรวมธนาคาร โดยค่าใช้จ่าย ในการด� ำเนินงานอยู่ที่ 31,219 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.0 จากปีก่อนหน้า และเนื่องจากสามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย จึงท� ำให้ค่าใช้จ่ายในการตั้งส� ำรองฯ ไม่เร่งตัวเช่นกัน โดยอยู่ที่ 21,514 ล้านบาท แม้ลดลงเมื่อเทียบกับ 24,831 ล้านบาท ในปี 2563 แต่ก็ยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าในภาวะปกติและเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยง ส่งผลให้ก� ำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 10,474 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ แม้ว่าในปี 2564 ธนาคารจะเน้นการเติบโตธุรกิจอย่างระมัดระวัง แต่พร้อมกันนั้นเราก็ได้พัฒนาและเตรียมการเพื่อเพิ่มศักยภาพใน การแข่งขันและการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสร้างพันธมิตรหลักทางธุรกิจเพิ่มเติมด้วยการเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนร้อยละ 10 ในบริษัทธนชาต ประกันภัยและบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต รวมถึงการน� ำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ซึ่งพร้อมจะทยอยเปิดตัว ในปี 2565 นี้ ก้าวสู่เป้าหมาย เพื่อให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งวันนี้และอนาคต วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางทางการเงินของคนไทยจ� ำนวนไม่น้อย และยิ่งตอกย� ำให้เห็นถึงความส� ำคัญของ เป้าหมายที่เราวางไว้ นั่นก็คือ การเห็นคนไทยมีรากฐานและความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดีทั้งวันนี้และอนาคต ดังนั้น ส� ำหรับก้าวต่อ ๆ ไป ทีเอ็มบีธนชาตจะยังคงแน่วแน่บนเส้นทางที่จะท� ำให้คนไทยเข้าใจและตระหนักถึงความส� ำคัญของการบริหารจัดการ ด้านการเงิน และจะน� ำเอาศักยภาพที่เพิ่มขึ้นจากการรวมกิจการมาสร้างสรรค์โซลูชันทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฉลาดใช้ฉลาดออม การกู้ยืมที่ยั่งยืน การลงทุนเพื่ออนาคต และการสร้างความคุ้มครองจากเหตุการณ์ที่ ไม่คาดฝัน ในท้ายที่สุดนี้ ผมขอขอบคุณลูกค้าและผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับเราในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงและการเติบโต ที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ พนักงานทุกคนที่หล่อหลอมให้ทีเอ็มบีธนชาตเป็นองค์กรที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงให้กับคนไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต จำ �กัด (มหาชน) 10

RkJQdWJsaXNoZXIy ODEyMzQ3